เรื่องทั่วไป
ขจัดอารมณ์ขุ่นมัวความเศร้าทั้งหลาย
คำแรกที่ต้องจำให้ขึ้นใจเลยว่า ไม่มีอะไรแน่นอนอย่ายึดติด คนเราถ้าไม่รู้จักปรับตัวตามสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปในแต่ละวัน ก็จะไม่มีวันได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ ไม่ชนะใจตัวเองสักที บางทีความคิดก็ไม่ตรงกับใจ และอารมณ์ที่เปลี่ยนไปตามแต่ละวัน ถ้าหากคุณยึดติดอยู่กับมันจะไม่มีคำว่าเปลี่ยนแปลงตัวเองเกิดขึ้น ยุคใหม่ สมัยใหม่ ก็ต้องเป็นคนใหม่ที่ทันยุคทันสมัยมากกว่าเดิม มีการปรับตัวเร็วขึ้น ทั้งทางอารมณ์ ความคิด จิตใจของบเราเองด้วย
เริ่มด้วยการเรียนรู้จากสิ่งล้มเหลวที่เกิดขึ้นกับตัวเอง ความล้มเหลวเกิดขึ้นกับชีวิตเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว แต่ที่แน่ๆ คุณจะจัดการกับความล้มเหลวที่เกิดขึ้นได้อย่างไร ให้จำไว้เวลาที่คิดอะไรไม่ออก อย่าคิดเชิงลบเพียงอย่างเดียว การคิดในเชิงบวกทำให้คุณหาทางออก รู้จักแก้ปัญหาเหล่านั้นได้ดีขึ้น เพื่อเรียนรู้และแก้ไขในสิ่งที่ผิดพลาด แต่ถ้าหากเรื่องผิดพลาดยังเกิดขึ้นซ้ำๆ กับคุณเรื่อยๆ ก็ให้ยอมรับและเรียนรู้ในแต่ละเรื่องที่ผิดพลาด รีบแก้ไขอย่ามัวคิดเชิงลบอย่ามัวเก็บความเงียบความกลัวไว้คนเดียว อย่ากลัวที่จะเปลี่ยนเรื่องบางเรื่องเราจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลง ไม่อย่างนั้นเราจะอยู่จุดเดิมกับคำที่ว่า อยู่กับความผิดพลาดซ้ำๆ อยู่อย่างนั้นไม่มีใครช่วยเราได้ นอกจากตัวเอง และบางทีอาจรู้สึกว่าอะไรทำไมเรื่องแย่ๆ ชอบเกิดขึ้นกับตัวเราด้วย ทำไมตัวเองไม่มีความสุขกับอะไรสักเรื่องเลย และตัวคุณเองก็เป็นคนที่ชอบอยู่เงียบๆ มีอะไรก็เก็บไว้คนเดียว ขอบอกเลยว่า เปลี่ยนแง่คิด ชีวิตก็เปลี่ยนได้มากทีเดียว จะจัดการกับตัวเองยังไงให้ผ่านเรื่องแย่ๆ ไปได้ หนึ่งอยู่ที่ความคิด มีสติ คิดบวก ในเย็น เร่งเปลี่ยนแปลง ด้วยตัวเราเองก่อนอย่าให้คนอื่นมาตัดสินว่าเราควรจะมีชีวิตอย่างไร หรือเราควรจะมีความสุขหรือทุกข์กันแน่ เราเท่านั้นที่เปลี่ยนแปลงเองได้
ก่อนจะเปลี่ยนแปลงอะไรได้ กว่าจะเข้มแข็งต้องผ่านจุดที่เราต้องรับคำวิจารณ์จากคนอื่นให้ได้ก่อน เรื่องบางเรื่องควรปล่อยวาง เรื่องบางเรื่องปล่อยไว้ไม่ได้ และให้ยินดีกับผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น จากที่คุณทำดีที่สุดแล้วทุ่มสุดตัวจริงๆ แล้ว คำวิจารณ์ที่มีประโยชน์ ความกดดันที่ทำให้เราเข้มแข็งขึ้นไม่ว่าจะเป็นคำวิจารณ์ที่มีผลกระทบต่อจิตใจคุณก็ตาม ยังไงก็เถอะ ควรรับฟังอย่างมีสติ เพราะคำวิจารณ์จากผู้ที่มีประสบการณ์นั้นมีประโยชน์ในการทำงานและตัดสินใจในแต่ละเรื่องได้ไม่มากก็น้อย ให้รับฟังไว้ อย่าดื้อรั้น หะยายามฟังสิ่งที่คนอื่นๆ อยากจะพูดแนะนำกับเราให้มากที่สุดแล้วมาทบทวนว่า คำวิจารณ์ไหนมีเหตุผลและเป็นเรื่องจริงเรื่องไหนควรแก้ไปตามความเป็นจริงก็ต้องแก้ หากทำตัวดื้อรั้นไม่ฟังใคร ไม่รีบแก้ คนอื่นจะยิ่งมองว่าเราอยู่กับที่ ดื้อรั้นไม่ฟังใครก็เหมือนกับว่าเราโง่ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น ฉะนั้นการชนะใจตัวเราชนะใจคนที่วิจารณ์เรา มีการเปลี่ยนแปลงตัวเอง เรื่องงาน ชีวิตส่วนตัวในทางที่ดีขึ้น ก็เป็นผลดีกับตัวเราเองทั้งนั้น ในโลกแห่งความเป็นจริงความคิดเราเป็นใหญ่ก็จริงแต่ก็ต้องรับฟังเสียงจากคนรอบข้างด้วย ไม่ว่าจะเรื่องการใช้ชีวิตของคนอื่น บางทีเราก็นำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวันของเราได้ไม่น้อยเลยทีเดียว
สิ่งสำคัญไปกว่านั้นก็คือ ควรจัดสมดุลเรื่องส่วนตัว เรื่องงาน เรื่องเล็กๆ น้อยๆ อย่ามองข้ามจงใช้เวลาส่วนตัวทั้งหมดในแต่ละวันอย่างมีค่า หากรู้สึกว่า เงินไม่พอใช้ก็ต้องหางานทำเพิ่ม งานที่เราเอื้อมถึง และทำให้สำเร็จ หากรู้สึกว่าผลงานออกมาแย่ให้ทบทวนและเรียนรู้จากข้อผิดพลาดแก้ไขให้ดีขึ้น ตรงจุดมากกว่าเดิม หากรู้สึกว่าหมดกำลังใจ ไม่อยากทำอะไร ให้นั่งสมาธิ สวดมนต์ ไม่ต้องคิดอะไรปล่อยทุกอย่างให้โล่ง หาหนังสือสักเล่มมาอ่าน อาจจะได้แรงบันดาลใจอะไรใหม่ๆ เยอะทีเดียวที่รู้สึกแบบนี้ไม่แปลกหรอก ใครๆ ก็รู้สึกหมดแรงที่จะเดินต่อได้ เพียงแต่อย่าหยุดอยู่กับความรู้สึกนั้นนานเกินไป ต้องรีบลุกขึ้นเดินอย่างมั่นใจอีกครั้งให้ได้และให้ดีกว่าเดิมด้วย ที่เขาเรียกว่าล้มแล้วต้องลุก เดินหน้าอย่างมั่นคง มุ่งมั่นและแข็งแกร่ง ท่องไว้เลยว่าความอดทนเป็นแรงผลักดันที่ดี ให้เราประสบความสำเร็จในทุกๆ เรื่องเรื่องบางเรื่องต้องใช้ความอดทน รอเวลาสักนิด ให้อดทนต่อความเครียด คำพูดจากคนอื่นในการทำงานให้ได้ และพฤติกรรมที่ดูหมิ่นดูถูกจากคนอื่น หรือบางครั้งถ้าถูกคนที่มีอำนาจเหนื่อยกว่าเอาเปรียบให้ท่องไว้ อดทนเข้าไว้ อย่าแสดงสีหน้าท่าทีอาการหงุดหงิดไม่พอใจ ยิ่งเรานิ่งเท่าไหร่ก็แปลว่าเราแกร่งขึ้นไม่ได้สนใจคำพูดพวกนั้นเลยสักนิด แล้วอย่าเก็บมารบกวนความรู้สึกจิตใจของตัวเองนะ ปล่อยให้โล่ง อยากทิ้งความรู้สึกแย่ๆ ไว้ตรงไหน ก็ปล่อยออกไปให้หมดเอาที่ตัวเราสบายใจ
Comments are closed